โรค PCOS
PCOS (ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ) คือ โรคที่มีความผิดปกติของฮอร์โมนที่พบบ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์สามารถเป็นได้ทั้งผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์และผู้หญิงผอม

ตอนที่ 1 : สาเหตุหลัก
ตอนที่ 2 : อาการที่พบบ่อย
ตอนที่ 3 : ผลกระทบ
ตอนที่ 4 : อันตรายแค่ไหน
ตอนที่ 5 : วิธีรักษา
ตอนที่ 6 : อาหารที่ไม่ควรกิน
ตอนที่ 7 : ค่ารักษาแพงไหม
ตอนที่ 8 : สรุป
สาเหตุหลัก
PCOS เกิดจากอะไร
- ฮอร์โมนเพศชาย (แอนโดรเจน) สูงผิดปกติ
- ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินผิดปกติ (ภาวะดื้อต่ออินซูลิน)
- พันธุกรรมอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง
อาการที่พบบ่อย
โรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบโดยอาการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่โดยรวมแล้วมีลักษณะเด่นๆดังต่อไปนี้
1.) ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือขาดประจำเดือน
- ประจำเดือนขาดหาย หรือมาน้อยครั้ง : อาจมีประจำเดือนน้อยกว่า 8 ครั้งต่อปี หรือขาดไปหลายเดือน
- ประจำเดือนมาไม่ตรงเวลา : มาบ้าง ไม่มาบ้าง หรือมาช้าเกิน 35 วัน
- ประจำเดือนมามากผิดปกติ : หากมีการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ เยื่อบุโพรงมดลูกอาจหนาขึ้นและหลุดลอกออกมามากขึ้น
2.) ภาวะมีบุตรยาก
- ไข่ไม่ตก หรือไข่ตกไม่สม่ำเสมอ ทำให้ตั้งครรภ์ยาก
- วงจรการตกไข่ผิดปกติ ทำให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนผิดจังหวะ
3.) สิว ผิวมัน ขนดกผิดปกติ
- สิวขึ้นเยอะ : สิวเรื้อรังที่ใบหน้า หลัง หรือหน้าอก เนื่องจากฮอร์โมนเพศชายสูงผิดปกติ
- ขนดกผิดปกติ : มีขนขึ้นเยอะในบริเวณที่ผู้หญิงมักไม่มี เช่น ใบหน้า คาง หน้าอก หลัง และหน้าท้อง
- ผิวมัน : ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น ทำให้ผิวหน้ามันและเป็นสิวได้ง่าย
4.) ผมร่วง เยอะเหมือนผู้ชาย
- ผมบางที่กลางศีรษะหรือด้านหน้า (เหมือนศีรษะล้านในผู้ชาย)
- ผมร่วงมากผิดปกติ จนเห็นหนังศีรษะชัดเจน
5.) น้ำหนักขึ้นง่ายและลงพุง
- น้ำหนักขึ้นง่าย โดยเฉพาะบริเวณรอบเอว
- อ้วนลงพุง ไขมันสะสมที่หน้าท้องมากกว่าปกติ
- ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ร่างกายควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี อาจนำไปสู่เบาหวาน
6.) รอยดำคล้ำบนผิว
- มี รอยดำคล้ำตามคอ, รักแร้ , ข้อพับ เนื่องจากอินซูลินในร่างกายสูงผิดปกติ
ผลกระทบ
โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่กับระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมทั้งร่างกายและจิตใจอย่างมาก เพราะความไม่สมดุลของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นในร่างกายของผู้ป่วยทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาได้มากมาย
ทางด้านร่างกาย
ผู้หญิงที่เป็นมักจะมีปัญหาเรื่องประจำเดือนมาไม่ปกติ บางคนประจำเดือนมาน้อย บางคนมามาก หรือบางคนประจำเดือนขาดหายไปเลย ซึ่งปัญหาประจำเดือนนี้เองที่ส่งผลต่อการมีบุตรยาก เพราะว่าการตกไข่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้โอกาสในการตั้งครรภ์ลดลงอย่างมาก
นอกจากนี้ยังทำให้เกิดปัญหาเรื่องขนดกขึ้นตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า หน้าอก และท้องน้อย ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนเพศชายในร่างกายที่สูงกว่าปกติอีกด้วย
ทางด้านจิตใจ
ผู้หญิงที่เป็นมักจะมีความวิตกกังวล ซึมเศร้า และมีความรู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง เนื่องจากปัญหาเรื่องสิว ขนดก และน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น
ทำให้พวกเธอรู้สึกว่าตัวเองไม่สวย และไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง และคุณภาพชีวิตโดยรวม
อันตรายแค่ไหน
โรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ ไม่ได้อันตรายถึงชีวิตโดยตรง แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ ปัญหาสุขภาพระยะยาวที่ร้ายแรง และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ
ความเสี่ยงระยะสั้น
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- ภาวะมีบุตรยาก
- ปัญหาผิวและรูปร่าง
ความเสี่ยงระยะยาว
- เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2
- เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง
- เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
- ภาวะซึมเศร้า
- หยุดหายใจขณะหลับ
วิธีรักษา
ต้องใช้วิธีการรักษาแบบผสมผสาน เพื่อจัดการกับอาการและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยแพทย์จะพิจารณาจากอาการ ความต้องการ และแผนการมีบุตรของผู้ป่วยเป็นหลัก ซึ่งแนวทางการรักษาหลักๆเช่น..
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต (การออกกำลังกาย , การคุมน้ำหนัก)
- การใช้ยา
- การผ่าตัด
อาหารไม่ควรกิน
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง : ขนมหวาน , น้ำอัดลม , น้ำผลไม้ , อาหารแปรรูป
- จำพวกแป้งขัดสี : ขนมปังขาว , ข้าวขาว , พาสต้า
- อาหารที่มีไขมันทรานส์ : ของทอด , อาหารแปรรูป , และเบเกอรี่
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ค่ารักษาแพงไหม
โรงพยาบาลรัฐ
ทุกคนมีสิทธิการรักษาตามระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) หรือประกันสังคม (บางคน) ซึ่งอาจครอบคลุมค่าใช้จ่ายบางส่วน แต่อาจจะต้องรอคิวนานหน่อย
- ค่าตรวจวินิจฉัย : 1,000 – 5,000 บาท (ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลและรายการตรวจ)
- ค่ายา : ยาขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณยาที่ใช้
- ค่าผ่าตัด (หากจำเป็น) : 50,000 – 80,000 บาทขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลและวิธีการผ่าตัด)
โรงพยาบาลเอกชน
สามารถสิทธิการรักษาตามระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ไม่ครอบคลุมแต่บริการรวดเร็วและสะดวกสบายกว่าโรงพยาบาลรัฐและไม่ต้องรอคิว
- ค่าตรวจวินิจฉัย : 3,000 – 10,000 บาท (ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลและรายการตรวจ)
- ค่ายา : ยาขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณยาที่ใช้
- ค่าผ่าตัด (หากจำเป็น) :100,000 – 250,000 บาทขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลและวิธีการผ่าตัด)
สรุป
สำหรับโรคนี้ถือว่าเป็นภาวะที่ไม่อันตรายในทันที แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวและนำไปสู่โรคร้ายแรงได้ โรคนี้เกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน ดังนั้นควรได้รับการรักษาและดูแลอย่างเหมาะสม
แม้จะไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่สามารถควบคุมอาการได้ผ่านการปรับพฤติกรรมต่างๆได้หากคุณมีอาการผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับคำแนะนำที่เหมาะสมครับ
ใครที่เป็นโรคนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะครับ แต่ถ้าใครชอบเดิน หวยไว อยากอาจจะเป็นวิธีที่ดีทีจะทำให้คุณสามารถเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชลได้